วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559

7 วัน 3 ที่ 2 สาวเหนือ ท่องเที่ยวสิงคโปร์ มาเลเซีย เกาะลังกาวี

          สวัสดีคะเพื่อนๆ วันนี้เรามีประสบการณ์ในการท่องเที่ยวมาเล่าสู่กันฟัง ทริปนี้เป็นทริปที่เราว่าแผนกัน ระยะเวลาในการเดินทาง ทั้งหมด 7 วัน ไปทั้งหมด 3 สถานที่ท่องเที่ยว สิงคโปร์ มาเลเซีย และเกาะลังกาวี งบประมาณทั้งหมด รวมทั้งตั๋วเครื่องบิน 15,000 บาท/ต่อคน (ตั๋วเครื่องบินจากเชียงใหม่-กรุงเทพ-สิงคโปร์ ขาไป, หาดใหญ่- กรุงเทพ - เชียงใหม่ ขากลับคะ) สายการบินแอร์เอเซีย เพราะถูกคะ 
    วันแรกเราไปถึงสิงคโปร์ประมาณ 2 ทุ่มและเข้าที่พัก อาหารมื้อแรกที่เรากินคะ หมี่ผัดสิงคโปร์ รสชาติก็พอประมาณนะคะ จืดๆ ไม่เหมือนอาหารไทยของเราเลยคะแต่ก็อร่อยอีกแบบคะ
 
    วันที่สอง universal studio Singapore ตั้งอยู่บนเกาะเซ็นโตซ่า ซึ่งการเดินทางไปที่นี่ ถ้าเราพักบนเกาะสิงคโปร์ เราต้องนั่งรถ Monorail ข้ามไปฝั่งเกาะเซ็นโตซ่า

 
 
 
ราคาตั๋วค่าเข้า Universal Studios Singapore พร้อมโปรโมชั่นต่างๆ ติดไว้ตรงบริเวณทางเข้า Sentosa Express 
 ในสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ มีเครื่องเล่นทั้งหมด 24 ชนิด โดยเป็นเครื่องเล่นที่ออกแบบใหม่จำนวน 18 ชนิด พื้นที่สวนสนุกประกอบด้วยธีมปาร์คที่รวมตัวละครและสถานที่ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นชื่อดังของบริษัทดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น คือมาดากัสการ์ (Madagascar)และเชร็ค (Shrek)
 
ธีมปาร์คในยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ จะจำลองเกาะมาดากัสการ์ขึ้นมา ประกอบด้วย ทะเล เรือเดินสมุทร และป่าที่บรรดา 4 สหายคือ อเล็กซ์ มาร์ตี้ เมลแมนและกลอเรีย รวมถึงตัวละครเอกในเรื่องเข้าไปในผจญภัยอยู่ในเกาะแห่งนี้ ธีมปาร์คส่วนนี้มีชื่อว่า “มาดากัสการ์ : ป่วนป่าแอฟริกา (Madagascar : A Crate Adventure)
 
เครื่องเล่นในธีมปาร์คมาดากัสการ์ประกอบด้วยการนั่งเรือผ่านฉากต่างๆที่เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ ซึ่งเหมือนกับได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยในเรื่องมาดากัสการ์ด้วยเช่นกัน
 
 
 
       ธีมปาร์คที่อยู่ใกล้ๆกันคือ ปราสาทฟาร์ ฟาร์ อเวย์ (FarFar Away Castle) ของฮีโร่ตัวเขียวเชร็ค และเจ้าหญิงฟีโอน่าในภาพยนตร์เรื่องเชร็ค ซึ่งเป็นปราสาทของกษัตริย์ฮาโรลด์และเป็นที่ประทับของเจ้าหญิงฟีโอน่า ตัวปราสาทมีความสูง 40 เมตร สิ่งที่น่าสนใจในธีมปาร์คแห่งนี้คือมัลติมีเดียเชร็ค 4D, การโชว์ร้องเพลงของดองกี้ และเครื่องเล่นมหาสนุกเมจิก โพชั่น  
 

 
นอกจากธีมปาร์ค 2 แห่งในยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ แล้วยังมีโซนที่น่าสนใจอีก 5 โซน เช่น เมืองไซไฟ, โซนอียิปต์,โซนนิวยอร์ก, โซนเดอะลอสต์เวิลด์ ที่จำลองฉากจากภาพยนตร์เรื่องจูราสสิคปาร์ค และโซนฮอลลีวู้ด บูเลอวาร์ด



ราคาค่าบัตร เป็นแบบเหมารวมต่อวัน ซื้อครั้งเดียว เล่นอะไรก็ได้ ณ เวลาปกติ (ซึ่งพนักงานบอกว่าคือ วัน จันทร์ – ศุกร์) ผู้ใหญ่ 68 ดอลลาร์ เด็ก 50 ดอลลาร์
เวลาคนแน่น (เสาร์ อาทิตย์ หรือ นักขัตฤกษ์) ผู้ใหญ่ 74 เด็ก 54 ดอลลาร์ ครับ
คำแนะนำอื่นๆ: ให้พกร่ม ครีมกันแดด ไปบ้าง เพราะระหว่างจุดอาจจะต้องเดินฝ่าแดด / ห้ามพลาด Transformers 3D ride ด้วยประการทั้งปวง เป็นเครื่องเล่นที่คุ้มมากๆ กับภารกิจต่อสู้กับ Decepticon ที่รถที่นั่งจะเขย่าตามสถานการณ์ และสมจริงมากๆ

    วันที่สาม  Garden by the bay , Singapore flyer






Gardens by the Bay สวนพฤกษศาสตร์ริมอ่าว Marina Bay
เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ของสิงคโปร์ ในย่าน Marina Bay เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของสิงคโปร์ในเวลานี้ สวนแห่งนี้มีความโดดเด่นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรม พันธุ์ไม้นาๆ ชนิดจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งพืชทะเลทราย พืชเมืองหนาว พืชที่อยู่บนดอยสูงระดับ 2,000 เมตรจากน้ำทะเล อย่างเช่นกุหลาบพันปี มีการทำโดมปรับอากาศเรือนกระจกรูปทรงเปลือกหอยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถึง 2 โดม โดยไม่มีเสาค้ำยันภายในโดม ขนาดใหญ่ 2.2 และ 1.5 เท่าของสนามฟุตบอล


นอกจากนี้ก็ยังมีกลุ่มต้นไม้ยักษ์ Supertree Grove จำนวน 18 ต้นเป็นรูปแบบของสวนแนวตั้งที่มีความสูงถึง 25-50 เมตร หรือประมาณตึก 16 ชั้น มองเห็นได้ในระยะไกล ที่ด้านบนของต้นไม้ยักษ์มีการติด Solar cell เพื่อใช้เก็บเป็นพลังงานส่องสว่างในเวลากลางคืน
การก่อสร้างสวน Gardens by the Bay มีมูลค่าโครงการถึง 1,035 ล้านดอลล่าร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 25,875 ล้านบาท (รวมสิ่งก่อสร้างทุกอย่างในสวนแต่ไม่รวมถึงราคาที่ดิน) กับพื้นที่ขนาด 101 hectares (1.01 ล้านตารางเมตร) นับว่าเป็นสวนที่ถือว่าใหญ่มาก เมื่อเที่ยบกับอัตราส่วนขนาดประเทศสิงคโปร์ ส่วนสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือสวน Royal Botanic Gardens, Kew มีขนาด 121 hectares ตั้งอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ



ค่าเข้าชม Gardens by the Bay
มีส่วนที่เข้าชมได้ฟรี และ ส่วนที่ต้องเสียค่าเข้าชม โดยส่วนที่เสียค่าเข้าชมจะเป็นโดม 2 โดม (conservatory) ได้แก่โดมดอกไม้ (Flower Dome) และ โดมป่าเมฆ (Cloud Forest)

Two conservatories * : โดมดอกไม้ และ โดมป่าเมฆ
OCBC Skyway** : ทางเดินลอยฟ้าระหว่าง Supertree Grove
Tip. ราคาค่าเข้าชม 28 SGD เป็นราคาที่ซื้อหน้างาน ถ้าต้องการซื้อถูกกว่านี้แนะนำให้ซื้อกับทัวร์เอเจนซี่ที่ร้าน Sea Wheel Travel ย่าน Chinatown ราคาเหลือเพียง 19 SGD เป็นบัตรแบบไม่ระบุวัน
เนื่องจากว่าบัตร Gardens by the Bay ของร้าน Sea Wheel Travel ถูกกว่าตั้งคนละ 9 SGD ไป 2 คนก็ถูกกว่า 18 SGD ผมเลยไปซื้อที่ Sea Wheel Travel เอาส่วนต่างไปกินข้าวได้มื้อนึงเลย




ช่วงเวลาในการชมดอกไม้ Gardens by the Bay
ตอนเช้าจะเป็นช่วงที่ดอกไม้ ต้นไม้สวยที่สุด ถ้าอยากเห็นต้นไม้สวยๆ แนะนำให้มาช่วงเช้า แต่ถ้ามาตอนเช้าแล้ว ตอนกลางคืนอยากชมไฟที่ Supertree Grove ก็ต้องมาใหม่อีกรอบ อาจจะเสียเวลา อีกหนึ่งทางเลือกคือมาช่วงบ่าย อยู่ยาวถึงเย็น รอดูไฟรอบ 19.45 น. ระยะเวลาในการชมต้นไม้ 2 โดมประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าจะดูสวนอื่นด้วยควรมีเวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง




เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 9.00 – 21.00 น.
ข้อห้ามในการเข้าชม : ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไป, ห้ามเด็ดดอกไม้, ห้ามสูบบุหรี่, ห้ามทิ้งขยะ

Singapore Flyer ชิงช้าสวรรค์ (Observation Wheels) ตั้งอยู่บริเวณริมปากอ่าวมาริน่า ด้วยความสูงเทียบเท่ากับอาคาร 42 ชั้น หรือ ประมาณ 165 เมตร ทำให้ชิงช้าสวรรค์ หรือ Singapore Flyer กลายเป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงมากที่สุดในโลก



 หนึ่งในเหตุผลที่ทางผู้สร้าง Singapore Flyer บอกกับนักท่องเที่ยวว่าทำไมนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนสิงคโปร์ควรจะต้องหาโอกาสนั่งชิงช้าสวรรค์นี้ให้ได้ซักครั้งนึง คือ นอกเหนือจากการที่จะได้เห็นวิวของสิงคโปร์จากมุมสูงได้อย่างสวยงามแล้ว ก็เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตเพราะว่า Singapore Flyer ประกอบไปด้วยแคปซูนทั้งหมดจำนวน 28 แคปซูน และ ในแต่ละแคปซูนบรรจุนักท่องเที่ยวได้ 28 คน ซึ่งเลข 28 เป็นเลขทางฮวงจุ้ย อย่างที่หลายๆ คนทราบกันว่า คนจีนมองว่าเลข 8 คือเลขแห่งความเจริญรุ่ง ส่วนเลข 28 ก็หมายถึงเป็นการ Double ความเจริญรุ่งเรือง หรือ Double Prosperity ดังนั้นถ้าใครได้มีโอกาสขึ้น Singapore Flyer ก็จะทำให้มีความเจิรญรุ่งเรืองในชีวิตเป็นสองเท่า


สำหรับค่าขึ้น Singapore Flyer
ปัจจุบัน (ตค 2555)
ผู้ใหญ่ (อายุ 13 ขึ้นไป) 33 SGD
เด็ก (อายุ 3-12) 21 SGD
ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ขึ้นไป 24 SGD


วันที่สี่ เดินทางไปมาเลเซียตั้งแต่เช้า ขึ้นไป Gentting Island โดยนั่งรถบัสจากสิงคโปร์ผ่านด่านที่มาเลเซียแล้วขึ้นเขาไปเมืองคาสิโน่ที่ใหญ่และอยู่บนภูเขา อากาศค่อนข้างหนาวเย็นที่เดียวคะ
(แต่ได้ข่าวว่าเขากำลังจะเปลี่ยนแปลงปรับปรุงให้ดูสวยงาม เป็นสวนสนุกและคาสิโน่แห่งใหม่ ใหญ่กว่าและทันสมัยกว่าคะ)


         เขาเกนติ้งมีความสูงประมาณ 1800 เมตร มีโรงแรมอยู่บนความสูงระดับเมฆ
ที่คนไทยจำนวนไม่น้อยกล่าวว่าได้มาอยู่เหนือเมฆ ได้มารับไอเย็น
แม้บางคนจะไม่ชอบเรื่องการพนันแต่ก็อยากมาได้เห็นปุยเมฆอย่างใกล้ชิด และมีให้เห็นกันตลอดปี



นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้ยังมีผู้คนทั่วเอเซียมาพักผ่อน เยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้มากมายเลยที่เดียว


วันที่ห้า เราออกเดินทางจากเกนติ้งเพื่อเดินทางไปยังเกาะลังกาวี เราเดินทางโดยรถบัสไปยังปีนังแล้วนั่งเรือจากปีนังไปยัง เกาะลังกาวี ปีนังยังมีสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกอยู่เราเลยแวะพักถ่ายรูปก่อนออกเดินทางไปยัง เกาะลังกาวี


“ปีนัง” นั้นเป็นหนึ่งในสิบสามรัฐของมาเลเซีย ในภาษามาเลย์จะเรียกว่า “ปูเลาปีนัง” (Pulau Penang) ซึ่งมาจากคำว่า “ปีนัง” ที่แปลว่า “ต้นหมาก” โดยในสมัยก่อนนั้นบนเกาะปีนังจะพบต้นหมากขึ้นอยู่มากมายนั่นเอง และหากพูดถึงรัฐปีนัง จะหมายรวมถึงพื้นที่บนเกาะปีนัง และ เซเบอรังเปอไร (Seberang Parai) บนแผ่นดินใหญ่
      
       เกาะปีนังถูกค้นพบโดย กัปตันฟรานซิส ไลท์ (Captain Fransis Light) ชาวอังกฤษ ต่อมาในปี ค.ศ.1786 กัปตันไลท์ก็ได้รับมอบเกาะปีนังจากสุลต่านแห่งรัฐเคดาห์ ในนามของบริษัทอีสต์ อินเดีย คอมพานี ด้วยการทำสัญญาว่าจะปกป้องแผ่นดินนี้จากสยามประเทศ ซึ่งเขาก็ได้เปลี่ยนชื่อเกาะเสียใหม่ว่า “Prince of Wales Island” เนื่องด้วยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันเกิดของเจ้าชายแห่งเวลส์
      
       ต่อมาไม่นาน กัปตันไลท์ก็ได้ตั้ง “จอร์จทาวน์” (George Town) ขึ้นมา เพื่อให้เป็นเมืองท่าปลอดภาษี ซึ่งก็มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ทำให้จอร์จทาวน์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และมีการเปิดสอนภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนในสมัยนั้นคนไทยที่พอมีฐานะนิยมจะส่งลูกหลานไปเรียนที่ปีนังเพื่อให้ได้เรียนภาษาอังกฤษ 

    
ประวัติแบบคร่าวๆ ของเมืองปีนัง สถานที่แห่งนี้เป็นที่น่าสนใจเพราะเป็นเมืองที่มีสถาปัยกรรมของอังกฤษที่สวยงามคะ



ลังกาวีห่างจากเกาะตะรุเตา จังหวัดสตูลของประเทศไทยเพียง 4 กิโลเมตร อยู่ห่างจากเมืองกัวลาปะลิสประมาณ 30 กิโลเมตร และเมืองกัวลาเกดะห์ 51 กิโลเมตร ประกอบด้วยกลุ่มเกาะเมืองร้อนจำนวน 99 เกาะ และเป็นที่รู้จักของชาวไทยและมาเลเซียจากตำนานของมะห์สุหรี สตรีผู้ถูกประหารด้วยความอยุติธรรม โดยนางได้สาปแช่งเกาะลังกาวีไว้ก่อนสิ้นใจ และการนำทายาทรุ่นที่ 7 ของเธอมาถอนคำสาป

มีตำนานมุขปาฐะว่าในอดีตเกาะลังกาวีเคยมีสุลต่านปกครอง ว่ามีสตรีนามมะห์สุหรีมาเป็นคู่ครองเป็นชายารองของสุลต่าน (บ้างว่าของอนุชา) และได้ให้กำเนิดโอรสนาม "วันฮาเกม" ด้วยเหตุนี้มะห์สุหรีจึงมีสิทธิเป็นประไหมสุหรีได้เพราะมีบุตรเป็นชาย เป็นที่ริษยาของประไหมสุหรีภรรยาหลวง ครั้นเมื่อมีการใส่ร้ายว่ามะห์สุหรีคบชู้ องค์สุลต่านทรงสดับเช่นนั้นก็ทรงพระโกรธรับสั่งให้ประหารมะห์สุหรีเสีย ด้วยเหตุนี้นางจึงอธิษฐานว่าหากนางไม่มีความผิดขอให้โลหิตเป็นสีขาว และให้ลังกาวีไม่เจริญไปเจ็ดชั่วอายุคน ครั้นเมื่อเพชฌฆาตแทงกริช สายโลหิตของมะห์สุหรีก็พวยพุ่งเป็นสีขาวดังคำสัตย์และสิ้นใจ ญาติของมะห์สุหรีจึงนำวันฮาเกมไปตั้งรกรากยังภูเก็ต



หาดทราย น้ำทะเลที่นี้ สวยงามมากคะ ขาวใส ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากเท่าไร เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสงบและพักผ่อน ที่นี้มีชื่อเสียงในเรี่องของการดำน้ำดูปะการัง


      เกาะลังกาวีแห่งนี้บอกเลยว่า เป็นเกาะสวรรค์ของนักดื่มคะ เพราะเครื่องดื่มที่นี้ ถูกมากกกกก
ท่านไหนที่ชือก็สามารถมาปาร์ตี้ที่นี้ได้นะคะ 


ทะเลสทรายสีดำ เป็นการเกิดหาดทรายดำนอกเขตภูเขาไฟ ทรายดำที่ได้ไม่ได้เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟโดยตรง แต่เกิดจากการผุกร่อนของแร่เหล็กในชั้นหินออกมาปะปนกับทราย หรือ การยุบตัวของเศษเหมืองและเปลือกหอยผสมด้วยแร่ควอตซ์ ซึ่งการเกิดด้วยวิธีนี้อาจได้หาดทรายที่ไม่ใช่สีดำสนิท แต่อาจมีสีจากตะกอนอื่นๆ ปะปนอยู่ด้วย ขึ้นกับปริมาณของทรายดำที่เกิดการผกร่อนและทับถมว่ามีมากน้อยเพียงใด อีกทั้งเนื้อทรายอาจจะไม่ละเอียดเท่ากับการเกิดจากภูเขาไฟอีกด้วย


วันที่หก เดินทางกลับโดยนั่งเรือผ่านเข้าด่านเมืองไทย จังหวัดตรังแล้วพักที่จังหวัดตรัง 1 คืนเพราะเราตกรถรอบสุดท้ายนั้นเอง 5555 
วันที่เจ็ด เดินทางเข้าหาดใหญ่ตอนเช้า และขึ้นเครื่องกลับเชียงใหม่คะ


สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อนๆทุกคนเดินตามความฝันของตัวเอง ออกไปใช้ชีวิต ออกไปหาประสบการณ์บางอย่างไม่สามารถหาได้กับตัวเอง จึงให้ความสุขแก่ตัวเองนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น